LG ตั้งเป้ารายได้ 300 ล้านบาท เกาะกลุ่มผู้นำตลาดจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) เผยกลยุทธ์รุกตลาดจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ เน้นพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความต่อเนื่องในการนำเสนอข้อมูลในพื้นที่สาธารณะ พร้อมจับมือพันธมิตรร่วมพัฒนาโซลูชั่นส์ทางธุรกิจ
ในปี 2558 นี้เทรนด์ของการใช้งานจอดิจิตอลเชิงพาณิชย์จะเน้นความอินเทอร์แอ็คทีฟมากขึ้น โดยหนึ่งในนวัตกรรมหลักของแอลจีในปีนี้คือ จอข้อมูลดิจิตอลแบบโปร่งแสง (Digital Transparent Display) ซึ่งได้รับการพัฒนาโดยแอลจีเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมหน้าจอแสดงผลเชิงพาณิชย์ นอกจากนี้ แอลจีจะเพิ่มความหลากหลายของขนาดหน้าจอให้สอดรับกับความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น[/block]
วิญญู กล่อมเกล้า ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์อินฟอร์เมชั่น ดิสเพลย์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด
[/block]
[block]
วิญญู กล่อมเกล้า ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์อินฟอร์เมชั่น ดิสเพลย์ เปิดเผยว่า “ปี 2557 ที่ผ่านมาถือเป็นปีที่แอลจีประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเป็นผลจากความต้องการของตลาดที่มองหาผลิตภัณฑ์จอภาพดิจิตอลเชิงพาณิชย์ที่ตอบสนองความต้องการในการบริหารจัดการและนำเสนอข้อมูลสู่สาธารณะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจอดิจิตอลของแอลจีสามารถตอบรับได้อย่างตรงจุด ด้วยนวัตกรรมของแอลจีที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำเสนอคอนเทนท์ได้อย่างคมชัดสมจริงในทุกสภาพแสง และผลิตจากวัสดุพิเศษที่เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงตลอดอายุการใช้งาน ซึ่งแตกต่างจากการใช้ทีวีหรือมอนิเตอร์ทั่วไป”
จอดิจิตอลเชิงพาณิชย์ของแอลจีเน้นให้ความสำคัญในแง่ของนวัตกรรมและสามารถนำเสนอคอนเทนท์ได้อย่างสมบูรณ์ว่าจะเป็น Ultra-Large Screen 4K Ultra-HD Signage ขนาด 98 นิ้ว ให้ความคมชัดระดับ 4K ด้วยขนาดหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดในตลาด รวมถึง High Brightness Super-Narrow Bezel Premium Display ขนาด 55 นิ้ว ซึ่งมาพร้อมขอบที่บางที่สุดในโลกเพียง 3.5 มิลลิเมตร สำหรับธุรกิจที่มองหาจอดิจิตอลขนาดใหญ่ที่แสดงผลได้แบบไร้รอยต่อ
สำหรับกลยุทธ์ด้านการตลาดนั้น แอลจียังคงให้ความสำคัญกับการร่วมกับ System Integrator หรือพาร์ทเนอร์เพื่อพัฒนาโซลูชั่นส์ที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์และคอนเทนท์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุดและหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยในปัจจุบัน แอลจีมีพาร์ทเนอร์ที่ครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรม ทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น บลู มีเดีย คอมมิวนิเคชั่นส์, คิง เพาเวอร์, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และเอสเอฟ ซีเนม่า เป็นต้น และยังคงมุ่งมั่นขยายฐานพาร์ทเนอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ร่วมมือกับเทสโก้ โลตัส ติดตั้ง Video Wall แบบ Touch Screen ในไฮเปอร์มาร์เก็ต 30 สาขาทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะขยายไปทั่วประเทศภายในปีนี้
นอกจากนี้ แอลจียังวางแผนขยายตลาดไปยังเซ็กเมนท์อื่นๆ เช่น ภาคการศึกษา โดยล่าสุดได้ร่วมมือกับโรงเรียนเซนต์คาเบรียลเพื่อใช้ Interactive Whiteboard แทนกระดานดำและไวท์บอร์ดเพื่อช่วยให้การเรียนการสอนสะดวกสบายและปลอดภัยต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน แอลจีจะเน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์โดยจัดสัมนาและอบรมทุกไตรมาสเพื่อให้พาร์ทเนอร์สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากนวัตกรรมของแอลจี
[/block]
There are no comments at the moment, do you want to add one?
Write a comment