มองธุรกิจ eCommerce ปี 2562 สร้างกลยุทธ์แห่งความอยู่รอด

เจาะลึกธุรกิจ eCommerce และช้อปปิ้งออนไลน์ ผ่านมุมมองของ 5 ผู้ประกอบการดิจิทัล ทำความเข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรม พฤติกรรมที่เกิดขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการอยู่รอดของธุรกิจในอุตสาหกรรมค้าขายออนไลน์
จับประเด็นสำคัญๆ ในเวทีเสวนา เจาะลึกธุรกิจอีคอมเมิร์ซและช้อปปิ้งออนไลน์ ทางออกเศรษฐกิจไทยยุคดิจิทัล ที่จัดโดย เคทีซี ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจอีคอมเมิร์ซและช้อปปิ้งออนไลน์ อย่าง ลาซาด้า ทีวี ไดเร็ค ซิลิงโก้ ลอรีอัล และ พอลพ่า บาย ดามาคัน ที่ต่างเปิดเผยมุมมองในการนำพาธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ
ท่ามกลางกระแสดิจิทัล ดิสรัปชั่น ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง บริการออนไลน์ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เป็นทางเลือกให้ชีวิตผู้บริโภคมีความสะดวกสบาย ได้ของเร็วประหยัดค่าใช้จ่าย สินค้ารับประกันความพอใจ และยังมีบริการเสริมอื่นๆ ที่ทำให้ได้รับประโยชน์มากขึ้นด้วย ทั้งบริการทางการเงิน บริการขนส่งถึงที่หมายและอีกมากมาย
คนซื้อของออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตมากขึ้น
พิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิตเคทีซี กล่าวว่า “ภาพรวมการทำธุรกิจออนไลน์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเติบโตก้าวกระโดด ช่วยสร้างรายได้ทางอาชีพและขับเคลื่อนให้ภาคเศรษฐกิจหมุนเวียน ด้วยแรงส่งจากเทคโนโลยีและโซเชียลมีเดียที่ทำให้โลกเล็กลง ข้อมูล การสื่อสารและโอกาสที่ดีเกิดการแลกเปลี่ยนแบบไร้ขีดจำกัด”
“จากสถิติของเคทีซี พบว่ายอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตผ่านช่องทางออนไลน์เติบโตสูงต่อเนื่องมาตลอด เปรียบเทียบปี 2561 กับปี 2560 เติบโตประมาณ 30% โดย 5 หมวดสินค้าที่มีการใช้จ่ายผ่านออนไลน์สูงสุด ได้แก่ หมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องสำอาง เสื้อผ้าแฟชั่น สินค้าตกแต่งภายในบ้าน สินค้าแม่และเด็ก นอกจากนี้ยังมีสมาชิกบัตรเครดิตรายใหม่ๆ เข้ามาใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มขึ้น 13% จากปี 2560 อีกด้วย แถมยังพบพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ที่คนหันมาสนใจและคุ้นเคยกับการค้นหาข้อมูลและทำรายการ ใช้จ่ายต่างๆ ผ่านออนไลน์ด้วยตนเองมาก”
ยังมีช่องว่างสำหรับเอสเอ็มอีหน้าใหม่
ธนิดา ซุยวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท ลาซาด้า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยปี 2561 ที่ผ่านมานั้น ถือว่าเติบโตอย่างน่าสนใจ เนื่องจากมี มาร์เก็ตเพลสรายใหม่จากต่างประเทศหลายรายเข้ามาดำเนินธุรกิจอย่างเป็นทางการ และมีสินค้ากลุ่มข้ามพรมแดน (Cross Border) เข้ามาในไทยมากขึ้น”
ขณะเดียวกันสถานการณ์ดังกล่าวก็ส่งผลให้การแข่งขันในธุรกิจอีคอมเมิร์ซปีนี้ดุเดือดมากขึ้นด้วยเช่นกัน แต่เมื่อเทียบกับต่างประเทศนั้น ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทยยังค่อนข้างเล็กเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ อย่างจีน เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ที่มีสัดส่วนร้อยละ 10, 9 และ 8 ของมูลค่าค้าปลีกสินค้าทั้งหมดตามลำดับ แต่เมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซในไทยพบว่า เฉลี่ยไม่ต่ำกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ดังนั้น โอกาสในการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ในไทยยังมีช่องว่างอีกมากสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีรายใหม่ที่สนใจ”
ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทัน
นริสสา ลิมปนาทร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ซิลิงโก้ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเติบโตในตลาดออนไลน์ค่อนข้างสูงมาก เป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในภูมิภาคนี้มักใช้การแข่งขันด้านราคามาเป็นกลยุทธ์ในการทำตลาดเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่กลุ่มประเทศในโซนยุโรป อเมริกาจะมีความคุ้นชินกับอีคอมเมิร์ซมากกว่า และมีความคุ้นชินกับการใช้บัตรเครดิต เรื่องของการแข่งขันด้านราคาจึงไม่รุนแรงนัก”
“แต่ในยุคที่ดิจิทัล ดิสรัปชั่น ผู้ประกอบการต้องปรับตัวหลายอย่างให้ทันกับตลาด ประการแรก ต้องรู้ว่าปัญหาของลูกค้าค้าคืออะไร และหากลวิธีต่างๆ ตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ในอย่างที่ตลาดทั่วไปทำไม่ได้ เช่น การให้ซื้อของก่อนจ่ายทีหลัง การชำระเงินปลายทาง เป็นต้น”
“ประการที่ 2 การขยายสินค้าและการกำหนดราคาให้เหมาะสม ถ้าเป็นธุรกิจที่มาจากต่างประเทศ ต้องดูว่าตอบโจทย์คนในพื้นที่ได้แค่ไหน สอดคล้องกับวัฒนธรรมหรือไม่ เพราะไม่มีอะไรที่จะเหมาะกับทุกคน ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และประการที่ 3 การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีผลกับดิสรัปชั่นในทุกธุรกิจ ลูกค้าคลิกอะไร ซื้อสินค้าอะไรมากที่สุด ใช้เวลากับผลิตภัณฑ์ใดมากที่สุด ทำให้สามารถโฟกัสได้ตรงจุดมากกว่า พฤติกรรมผู้บริโภคจึงเสมือนตัวกำหนดกลยุทธ์ของบริษัทในประเทศนั้นๆ”
“เทรนด์การทำธุรกิจออนไลน์ในไทยจากนี้น่าจะแข่งขันกันสูง และมีรายใหม่ๆ ผันตัวเองมาทำตลาดออนไลน์มากขึ้น รวมถึงเป็น Omni channel เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ลูกค้าให้มากที่สุด นอกจากนี้ แนวโน้มการทำตลาดออนไลน์ที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้ คือ การตัดคนกลางระหว่างพ่อค้าแม่ค้าที่ทำธุรกิจกับโรงงานต่างๆ ในต่างประเทศ”
วิเคราะห์ลูกค้าให้เป็น
จุรีรัตน์ ก้องเกียรติวงศ์ หัวหน้าสายงานดิจิทัล แผนกเครื่องสำอางชั้นสูง บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจออนไลน์ในยุคที่ดิจิทัล ดิสรัปชั่น คือ การคำนึงถึงลูกค้าผู้บริโภคเป็นหลัก ซึ่งส่งผลต่อการทำธุรกิจในหลายด้าน เช่น ในส่วนของการตลาด เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่การเสพสื่อที่เน้นช่องทางดิจิทัลมากขึ้นในทุกเพศ ทุกวัย”
“ผู้ประกอบการต้องวิเคราะห์และทำความเข้าใจว่าจะเข้าถึงลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างไร และจะมอบประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคเหล่านั้นในช่องทางดิจิทัลให้ดีมากยิ่งขึ้นในทุกๆ จุดบริการของเราได้อย่างไร หรืออย่างช่องทางการขายสินค้าต่างๆ ธุรกิจต้องมองให้ออกว่าในแต่ละช่องทางลูกค้ามีความแตกต่างกันอย่างไรเพื่อใช้เป็นแนวทางในการคิดกลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อทำการตลาดให้ลูกค้ากลุ่มต่างๆ มีส่วนร่วมได้ดีมากยิ่งขึ้น
แข่งขันราคาและบริการ
กีรติ โรจนกีรติกานต์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท พอลพ่า บาย ดามาคัน จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจออนไลน์ในประเทศไทยต้องใช้การเข้าถึงตัวบุคคลค่อนข้างมาก ช่องทางการตลาดผ่าน Influencer จึงมีประสิทธิภาพมากในแถบเอเชียไมใช่แค่ในประเทศไทย เพราะคนไทยชอบการรีวิว และการเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ง่าย เช่น การทำธุรกิจบน LINE เพราะคนไทยเลือกที่จะ Add LINE แล้วได้สื่อสารตรงกับผู้ขายมากกว่า”
“การที่คนอยู่กับโลกดิจิทัลเฉลี่ย 24 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ ถือเป็นปัจจัยหลักที่มีผลกระทบกับธุรกิจทุกประเภท แม้กระทั่งธุรกิจโรงเรียนที่ไม่เคยทำโฆษณาออนไลน์ก็ต้องหันมาใช้บริการ เพราะคนอยู่บนโลกของโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น โฆษณาที่นิยมในอเมริกาสุดตอนนี้คือผ่านช่องทางอินสตาแกรม ในแง่ของธุรกิจหันมาทำออนไลน์อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรายย่อยหรือรายใหญ่”
“ความท้าทายที่เกิดขึ้นตอนนี้คือ คู่แข่งเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เกิดการแข่งขันในเรื่องราคาสูง แต่ในด้านบริการก็ต้องคงคุณภาพให้ดีเสมอ แม้กระทั่งอาชีพรับจ้าง อย่างเช่น คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างตอนนี้มีทางเลือกในการทำงานกับหลากหลายบริษัท การทำโฆษณาบนออนไลน์จะเป็นแบบ Paid Media มากขึ้น การทำธุรกิจออนไลน์เพื่อให้ได้ลูกค้าแบบออร์กานิกหรือไม่ซื้อสื่อค่อนข้างเป็นไปได้ยาก”
There are no comments at the moment, do you want to add one?
Write a comment